คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17/2567
คำพิพากษาศาลอุทธณณ์ภาค 9 ที่วินิจฉัยในเรื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ดของกลางว่า เป็นเครื่องมือเครื่องใช้หรือเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้องโดยตรง ให้ริบเสีย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบ เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(9) ประกอบมาตรา 215
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า...
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ด 8 เครื่อง ของกลาง ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยในเรื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ด 8 เครื่อง ของกลางว่าเป็นเครื่องมือเครื่องใช้หรือเป็นทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ในการกระทำความผิดตามฟ้องโดยตรง จึงให้ริบเสีย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) ดังนั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 9 จึงต้องมีคำพิพากษาให้ริบของกลางดังกล่าวด้วย แต่ปรากฏว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ไม่ได้มีคำพิพากษาให้ริบของกลางดังกล่าว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(9) ประกอบมาตรา 215 ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง โดยพิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบโทรศัพท์เคลื่อนที่พร้อมซิมการ์ดของกลาง
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186(9) และ มาตรา 215
อ้างอิงจาก : คำพิพากษาฎีกา ประจำพุทธศักราช 2567 จัดพิมพ์โดยเนติบัณฑิตยสภา